พรมและสิ่งทอปูพื้นอื่นๆ
เข้าชมรายละเอียดของสินค้าพรมและสิ่งทอปูพื้นอื่นๆตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 คลิกที่นี่
เนื้อหา
- 1 ความรู้ทั่วไปของสินค้าพรมและสิ่งทอปูพื้นอื่นๆ
- 2 คุณลักษณะสินค้า
- 3 กฎหมายและประกาศที่เกี่ยวข้อง
- 4 พิกัดภาษีสรรพสามิตสินค้าพรมและสิ่งทอปูพื้นอื่นๆ
- 5 บริการค้นหาพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตสินค้าพรมและสิ่งทอปูพื้นอื่นๆ
- 6 แบบฟอร์มที่เกี่ยวข้องและวิธีการกรอกข้อมูล
- 7 การคำนวณภาษี
- 8 พิกัดศุลกากร (Harmonize) สินค้าพรมและสิ่งทอปูพื้นอื่นๆ
ความรู้ทั่วไปของสินค้าพรมและสิ่งทอปูพื้นอื่นๆ
ความหมายของสินค้าพรมและสิ่งทอปูพื้นอื่นๆ
- ผลิตภัณฑ์พรม คือ พรมและสิ่งทอปูพื้นทำด้วยขนสัตว์ ประเภทของพรม แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่
- พรมทอมือ (Hand Tufted) เป็นพรมที่ทอด้วยเครื่องมือขนาดเล็กคล้ายกับเครื่องจักรมือ ทอลงบนผืนผ้าใบที่ได้ทำการลอกลายไว้แล้ว มีความหนาแน่นกว่าพรมทอเครื่องทั่วไป
- พรมทอเครื่อง (Machine Tufted) ทอด้วยเครื่องจักรทันสมัย สามารถทอได้ทั้งสีพื้น สีผสม และริ้วสลับสี สามารถปรับความถี่และความสูงของฝีเข็มได้ตามคุณภาพที่ต้องการ ใช้เวลาในการทอน้อย
- พรมอัด (Needle Punch) ทำจากเส้นใยโพลีโพรไพรลีน ทนต่อสิ่งสกปรก เหมาะกับงานแสดงสินค้า หรือบริเวณที่ใช้งานหนัก ไม่เน้นความสวยงาม
- พรมแผ่น (Carpet Tiles) พรมทีทอจากเครื่องมาตัดเป็นแผ่น
- ลักษณะพิเศษของการจัดเก็บภาษี คือ การยกเว้นภาษีอื่น ๆ นอกจากพรมหรือสิ่งทอปูพื้นทำด้วยขนสัตว์ (ตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ลดอัตราและยกเว้นภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ 37) ลงวันที่ 4 กันยายน 2539)
ประเภทสินค้าพรมและสิ่งทอปูพื้นอื่นๆตามชนิดของสินค้า
- ประเภทสินค้าพรมฯ แบ่งตามชนิด
- ถัก (Woven)
- ผูกปม (Knotted)
- ทอ (Tufted)
คุณลักษณะสินค้า
ลำดับที่ | ชื่อข้อมูลคุณสมบัติ | ความหมาย |
1 | ชื่อผลิตภัณฑ์ (แบบหรือรุ่น) | รุ่นของผลิตภัณฑ์ที่จำหน่าย |
2 | ยี่ห้อ | เครื่องหมายหรือ สัญลักษณ์หรือตราที่ใช้กับสินค้าหรือบริการ ซึ่งเครื่องหมายที่ให้ความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2543 ให้ใส่ชื่อเครื่องหมายการค้าหลักของสินค้าหรือบริการ |
3 | ทำจากขนสัตว์หรือไม่ | ระบุว่าผลิตภัณฑ์นี้มีขนสัตว์เป็นส่วนประกอบหรือไม่ |
4 | ขนาด (ตารางเมตร ต่อ ผืน) | ขนาดของผลิตภัณฑ์โดยระบุเป็นตารางเมตรต่อผืน |
5 | ราคาขาย ณ โรงงานอุตสาหกรรมต่อผืน | ราคาขายสินค้าต่อหน่วยที่โรงอุตสาหกรรมซึ่งรวมภาษีสรรพสามิตและภาษีเก็บเพื่อมหาดไทย แต่ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) |
6 | สัดส่วนของวัสดุที่ใช้ในการผลิต | ชื่อและสัดส่วนของวัสดุหลักที่ใช้ผลิต เช่น Wool 100% |
7 | เป็นสินค้าส่งออกหรือจำหน่ายในประเทศ | ระบุว่าเป็นสินค้าที่ผลิตขึ้นเพื่อจำหน่ายในประเทศ หรือ เพื่อเป็นสินค้าส่งออก |
8 | เป็นสินค้านำเข้าหรือไม่ | ระบุว่าเป็นสินค้าที่นำเข้ามาจากต่างประเทศหรือไม่ |
9 | ชนิดของพรม | ชนิดของผลิตภัณฑ์โดยดูจากวิธีการผลิต ได้แก่ Woven หรือ Knotted หรือ Tufted |
กฎหมายและประกาศที่เกี่ยวข้อง
กฎหมายและประกาศที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตพรมและสิ่งทอปูพื้นอื่นๆในปัจจุบัน มีดังต่อไปนี้
- พระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527
- พระราชบัญญัติพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527
- ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ลดอัตราและยกเว้นภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ 37) ลงวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2539
พิกัดภาษีสรรพสามิตสินค้าพรมและสิ่งทอปูพื้นอื่นๆ
ประเภทที่ | รายการ | อัตราภาษีที่ใช้ในการจัดเก็บตามมูลค่าร้อยละ | ลดลงเหลือ/ยกเว้น ตามมูลค่าร้อยละ |
---|---|---|---|
08.90 (1) | พรมและสิ่งทอปูพื้นอื่นๆ | ||
– พรมและสิ่งทอปูพื้นทำด้วยขนสัตว์ | 30 | 20 | |
– อื่นๆ นอกจากพรมและสิ่งทอปูพื้นทำด้วยขนสัตว์ | 30 | ยกเว้นภาษี |
บริการค้นหาพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตสินค้าพรมและสิ่งทอปูพื้นอื่นๆ
- ระบบค้นหาพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตสินค้าพรมและสิ่งทอปูพื้นอื่นๆ เป็นบริการของกรมสรรพสามิตที่ให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการและผู้สนใจทั่วไป ในการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับพิกัดอัตราอัตราภาษีของสินค้าพรมและสิ่งทอปูพื้นอื่นๆ โดยระบบจะค้นหาพิกัดอัตราอัตราภาษีที่ตรงกับคุณสมบัติของสินค้าที่ผู้ใช้ระบุ พร้อมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เช่น อัตราภาษีตามปริมาณ อัตราภาษีตามมูลค่า และโปรแกรมช่วยคำนวณภาษีสรรพสามิตที่พึงชำระของสินค้า
แบบฟอร์มที่เกี่ยวข้องและวิธีการกรอกข้อมูล
การคำนวณภาษี
เนื่องจาก ภาษีสรรพสามิต = มูลค่า x อัตราภาษีสรรพสามิต ดังนั้น ความหมาย มูลค่า ตาม ม.8 ในกรณีต่างๆ ตามกฎหมายจึงสรุปได้ดังนี้
กรณีสินค้าผลิตในราชอาณาจักร ม.8(1)
วิธีการคำนวณภาษีที่ผลิตในราชอาณาจักร ม.8(1)
- ม.8(1) การเสียภาษีตามมูลค่า ให้ถือมูลค่าตามราคาขาย ณ โรงอุตสาหกรรม โดยรวมภาษีสรรพสามิตที่พึงต้องชำระ
- ราคาขาย ณ โรงอุตสาหกรรม หมายถึง ต้นทุน + กำไร โดยที่ไม่รวมภาษี
- มูลค่า = ราคาขาย ณ โรงอุตสาหกรรม + ภาษีสรรพสามิต + ภาษีเพื่อมหาดไทย
- ภาษีสรรพสามิต = มูลค่า x อัตราภาษี
ดังนั้น ภาษีสรรพสามิต = (ราคาขาย ณ โรงอุตสาหกรรม + ภาษีสรรพสามิต + ภาษีเพื่อมหาดไทย) x อัตราภาษีสรรพสามิต
โดย มูลค่า คือ ราคาขายที่รวมภาษีสรรพสามิตและภาษีเพื่อมหาดไทยที่พึงต้องชำระ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า มูลค่า คือ ราคาที่รวมภาระภาษีสรรพสามิต และภาษีเพื่อมหาดไทยแล้ว ซึ่งจะเป็นราคาขายก่อนรวมภาษีมูลค่าเพิ่มนั่นเอง
แต่ถ้ายังไม่ทราบราคาดังกล่าวหรือราคาขาย ซึ่งจะพบในกรณีผู้ประกอบอุตสาหกรรมรายใหม่หรือจะเริ่มผลิตสินค้าใหม่ ที่ยังไม่สามารถตั้งราคาที่รวมภาษีที่พึงต้องชำระ แต่ทราบแต่ราคาที่ยังไม่รวมภาษีสรรพสามิตพึงต้องชำระ (คือต้นทุน + กำไร เท่านั้น) สามารถคำนวณภาษีสรรพสามิตได้จากสูตร
สูตร ภาษีสรรพสามิต = (ราคาขาย ณ โรงอุตสาหกรรมที่ยังไม่รวมภาษี × อัตราภาษีสรรพสามิต)/(1-(1.1 × อัตราภาษีสรรพสามิต))
ดังนั้น หากทราบราคาขายสุทธิที่รวม VAT (ภาษีมูลค่าเพิ่ม) แล้ว สามารถใช้ราคาดังกล่าว หัก VAT ออก ซึ่งเป็นราคาที่รวมถึงภาระภาษีสรรพสามิต และภาษีเพื่อมหาดไทยแล้ว ฉะนั้น จึงสามารถคำนวณภาษีสรรพสามิตได้ ดังนี้ ภาษีสรรพสามิต = มูลค่า X อัตราภาษีสรรพสามิต
หากยังไม่ทราบค่าภาษีสรรพสามิต แล้วจะคำนวณค่าภาษีได้อย่างไร ?
สูตรได้จากการแก้สมการเพื่อคำนวณค่าภาษีสรรพสามิต ดังนี้
ภาษีสรรพสามิต = มูลค่า x อัตราภาษี
ภาษีสรรพสามิต = (ราคาขาย ณ โรงอุตสาหกรรม + ภาษีสรรพสามิต + ภาษีเพื่อมหาดไทย) x อัตราภาษีสรรพสามิต
สมมุติสัญลักษ์ ภาษีสรรพสามิต = T , ราคาขาย ณ โรงอุตสาหกรรม = A , อัตราภาษี = R
แทนค่า
T = (A + T + 10%T) x R T = (A + T + 0.1T) x R T = (A + 1.1T)R T = AR + 1.1TR T - 1.1TR = AR T(1 - 1.1R) = AR T = AR/(1-1.1R)
ดังนั้น แทนค่าสัญลักษณ์ได้ดังนี้ ภาษีสรรพสามิต = (ราคาขาย ณ โรงอุตสาหกรรม × อัตราภาษี)/(1-(1.1 × อัตราภาษี)) จึงได้สูตรการคำนวณภาษี สำหรับกรณีที่ยังไม่ทราบมูลค่า ซึ่งทราบแต่ราคาขาย ณ โรงอุตสาหกรรม (ต้นทุน + กำไร) ที่ยังไม่รวมภาระภาษี จะคำนวณหาค่าภาษีสรรพสามิต ได้ดังนี้
สูตร ภาษีสรรพสามิต = (ราคาขาย ณ โรงอุตสาหกรรม × อัตราภาษี)/(1-(1.1 × อัตราภาษี))
กรณีสินค้านำเข้า ม.8(3) วิธีการคำนวณภาษีกรณีสินค้านำเข้า ม.8(3)
มูลค่า = ราคา ซี.ไอ.เอฟ. ของสินค้า + อากรขาเข้า + ค่าธรรมเนียมพิเศษตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน + ภาษีและค่าธรรมเนียมอื่นตามที่จะได้กำหนดใน พ.ร.ฎ. แต่ไม่รวมถึง VAT + ภาษีสรรพสามิต + ภาษีเพื่อมหาดไทย
ดังนั้น ภาษีสรรพสามิต = (มูลค่า ดังกล่าว) x อัตราภาษีสรรพสามิต โดยสามารถแก้สมการในทำนองเดียวกับกรณีสินค้าผลิตในราชอาณาจักร จึงได้สูตรการคำนวณภาษีสรรพสามิต ดังนี้
สูตร ภาษีสรรพสามิต = ((C.I.F + อากรขาเข้า + ค่าธรรมเนียมอื่นไม่รวม VAT)× อัตราภาษีสรรพสามิต)/(1- (1.1 × อัตราภาษีสรรพสามิต) )
การคำนวณภาษีสรรพสามิตตามมูลค่า การคำนวณภาษีสรรพสามิตตามมูลค่า กรณีสินค้าผลิตในราชอาณาจักร
ภาษีสรรพสามิต = มูลค่า x อัตราภาษีสรรพสามิต หรือ ภาษีสรรพสามิต = (ราคาขาย ณ โรงอุตสาหกรรม × อัตราภาษีสรรพสามิต)/(1-(1.1 × อัตราภาษีสรรพสามิต))
ตัวอย่างการคำนวณภาษี
กรณีทราบราคาขายสุทธิ
พรม 1 ชิ้น ราคาขาย ณ โรงอุตสาหกรรม (รวมภาษีสรรพสามิตและภาษีเพื่อกระทรวงมหาดไทย) ชิ้นละ 5,000 บาท อัตราภาษีสรรพสามิตตามมูลค่าร้อยละ 20
วิธีการคำนวณ
ภาษีสรรพสามิต = มูลค่า x อัตราภาษี = (1 x 5,000) x 20/100 = 1,000 บาท
จะต้องชำระภาษีสรรพสามิต = 1,000 บาท พร้อมด้วยภาษีเก็บเพิ่มเพื่อกระทรวงมหาดไทยร้อยละ 10 ของค่าภาษี = 100 บาท รวมภาษีต้องชำระ = 1,100 บาท
กรณียังไม่ทราบราคาขายสุทธิ
พรม 1 ชิ้น ราคา 5,000 บาท (ราคาต้นทุน + กำไรที่ยังไม่ได้รวมภาษีสรรพสามิต) อัตราภาษีสรรพสามิตตามมูลค่าร้อยละ 20
วิธีการคำนวณ
ภาษีสรรพสามิต = (ราคาขาย ณ โรงอุตสาหกรรม x อัตราภาษี)/(1-(1.1 x อัตราภาษี)) = ((5,000 x 1) x 0.20)/(1-(1.1 x 0.20)) = 1,282.05 บาท
จะต้องชำระภาษีสรรพสามิต = 1,282.05 บาท พร้อมด้วยภาษีเก็บเพิ่มเพื่อกระทรวงมหาดไทยร้อยละ 10 ของค่าภาษี = 128.21 บาท รวมภาษีต้องชำระ = 1,410.26 บาท
กรณีนำเข้าจากต่างประเทศ
บริษัท เอ บี นำเข้าพรม 1 ผืน ราคา ซี.ไอ.เอฟ. 150,000 บาท (คือ ราคาสินค้า + ค่าขนส่ง + ค่าประกันภัย) อากรขาเข้า 15,000 บาท อากรพิเศษ 1,500 บาท และอัตราภาษีสรรพสามิตตามมูลค่าร้อยละ 20
วิธีการคำนวณ
ภาษีสรรพสามิต = ((C.I.F. + อากรขาเข้า + ภาษีค่าธรรมเนียมอื่นไม่รวมถึงภาษีมูลค่าเพิ่ม) x อัตราภาษี) / (1-(1.1 x อัตราภาษี)) = ((150,000 + 15,000 + 1,500) x 0.20) / (1-(1.1 x 20 / 100)) = 33,300 / 0.78 = 42,692.31 บาท
จะต้องชำระภาษีสรรพสามิต = 42,692.31 บาท พร้อมด้วยภาษีเก็บเพิ่มเพื่อกระทรวงมหาดไทยร้อยละ 10 ของค่าภาษี = 4,269.23 บาท รวมภาษีต้องชำระ = 46,961.54 บาท
พิกัดศุลกากร (Harmonize) สินค้าพรมและสิ่งทอปูพื้นอื่นๆ
พิกัดศุลกากร (Harmonize) สินค้าพรมและสิ่งทอปูพื้นอื่นๆ สำหรับการนำเข้า/ส่งออกสินค้าพรมและสิ่งทอปูพื้นอื่นๆ จำเป็นที่จะต้องดำเนินการผ่านกรมศุลกากร และในการแจ้งขออนุญาตนำเข้า/ส่งออกสินค้า จำเป็นที่จะต้องทราบพิกัดของศุลกากร ดังนั้นเพื่อให้สามารถระบุพิกัดศุลกากร สำหรับการแจ้งขออนุญาตหรือชำระภาษีผ่านศุลกากรได้ จึงได้จับคู่พิกัดสินค้าของกรมสรรพสามิตกับพิกัดศุลกากรของสินค้าพรมและสิ่งทอปูพื้นอื่นๆ